คำถามชวนคิด : สาเหตุที่ทำให้เด็กและเยาวชนเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษานั้น เป็นเพราะระบบไม่เข้ากับเด็กหรือเด็กไม่เข้ากับระบบ?
เด็กเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษามีทุกระดับการศึกษา โดยระดับที่เสี่ยงหลุดมากที่สุด คือระดับประถมศึกษา (46.29%) และเด็กประสบสาเหตุที่มีโครงสร้างซับซ้อนมากกว่าหนึ่งสาเหตุ ดังนั้นกระบวนการแก้ปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือแบบสหวิชาชีพ
“การศึกษาที่ตอบโจทย์ชีวิต” คือ Keyword สำคัญในการสร้างระบบนิเวศที่ทุกคนมีทางเลือก…เพื่อให้ระบบการศึกษาเข้ากับเด็กมากที่สุด
1. นางสาวเจนจิรา พาเชื้อ (เจน) อายุ 19 ปี
นครพนม
โรงเรียนมือถือ : โรงเรียนที่สามารถเคลื่อนที่ไปหากลุ่มเป้าหมายโดยศูนย์การเรียน CYF
เลือกเรียนที่สะดวกและรองรับกับข้อจำกัดของเรา
หนูฝันอยากทำงานสายสุขภาพ เช่น อาชีพพยาบาล ก็เลยหาที่เรียนจนได้มาเจอกับ CYF ที่ไม่สะดวกเรียนในระบบเพราะตอนนั้นเราไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นซึมเศร้า พักประมาณเทอมหนึ่งแล้วก็ต้องหาที่เรียนเพราะอยากเปลี่ยนโรงเรียน
เลือกเรียนที่สะดวกและรองรับกับข้อจำกัดของเรา รู้สึกว่าโรงเรียนมือถือเหมาะกับเราเพราะเราเป็นคนเก็บตัว การเรียนแบบนี้ก็เลยตอบโจทย์ชีวิต โรงเรียนมือถือจะมีการพบปะใน Zoom เดือนละหนึ่งครั้ง เล่าประสบการณ์ชีวิตแลกเปลี่ยนกัน ครูก็เหมือนเป็นโค้ชให้เราด้วย เราได้พูดคุย ได้เห็นตัวเอง ได้มีทั้งเพื่อนและได้เรียนในเวลาเดียวกัน
2. นายสิทธิกร แตงอุด (เจมส์) อายุ 16 ปี
น่าน
ศูนย์การเรียนชุมชนธรรมชาติบ้านห้วยพ่าน : สถานศึกษาที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาจัดการศึกษาให้ลูกหลานด้วยตัวเอง
เราอยากเรียนอะไรเราก็ได้เรียน เป็นเรื่องใกล้ตัวและทำเป็นอาชีพได้ด้วย
การศึกษาทำให้เรามีความรู้รอบตัว สมมุติเราไปทำงานที่อื่น เรื่องภาษาเราก็สามารถคุยกับเขาได้
ผมเรียนที่นี่ตั้งแต่อยู่อนุบาลจนถึง ม.3 ผมไม่ได้ออกไปเรียนข้างนอกหมู่บ้านเลย รู้สึกว่าเรียนที่นี่แล้วดีเพราะอยู่ใกล้บ้าน อยู่แบบวิถีชุมชนของเราไป สนุกดี ไม่เครียด อยู่ที่โรงเรียนก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ก่อนจะจบ ม. 3 ผมทำโครงงานเรื่องการขับรถไถ ผมชอบตรงนี้คือเราอยากเรียนอะไรเราก็ได้เรียน เป็นเรื่องใกล้ตัวและทำเป็นอาชีพได้ด้วย
ความฝันคือผมอยากมีบ้าน อยากเป็นชาวไร่ ชาวนา อยากมีธุรกิจรถไถเป็นของตัวเอง เพราะตอนนี้ผมเป็นลูกน้องรับจ้างขับรถไถอยู่
3. นางสาวทิง ลุมหม่า (ทู) อายุ 16 ปี
เชียงใหม่
ไร่ส้มวิทยา : ศูนย์การเรียนที่ออกแบบการศึกษาบนเงื่อนไขชีวิตของลูกหลานแรงงานข้ามชาติและกลุ่มชาติพันธุ์
ไม่สะดวกเรียนในระบบการศึกษา เพราะไม่มีเงินและอายุเกิน
ความฝันคืออยากเรียนจบ ม.6 แล้วก็อยากทำงานช่วยครอบครัว อยากเป็นพนักงานเซเว่น ที่ไม่สะดวกเรียนในระบบเพราะไม่มีเงินและอายุเกิน พอได้เรียนที่นี่ก็รู้สึกภูมิใจมาก ก่อนที่จะเข้ามาเรียน เราอ่านเขียนภาษาไทยไม่ได้ แต่ผ่านไปหนึ่งปี ตอนนี้ก็อ่านได้ เขียนได้แล้ว
เรียนที่นี่ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย บรรยากาศการเรียนก็ดีมาก เพื่อนก็ดี ครูก็ไม่ดุ ไม่ด่า แต่งกายชุดปกติ ไปทำกิจกรรมบนภูเขา ไปฟ้อน ไปเล่นละคร อยากเรียนอะไร ครูก็จะสอนให้
4. นางสาวลักษิกา อ่วมอรุณ (มิ้นท์) อายุ 20 ปี
กรุงเทพมหานคร
Free From School : ห้องเรียนนอกกรอบเพื่อให้เด็กมีทักษะการทำงานและวุฒิการศึกษา
ต้องเป็นหลักสูตรที่ใช้ได้จริงและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ความฝันของหนูคืออยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง ตอนนั้นมีปัญหากับโรงเรียนก็เลยเลิกเรียนไป พอได้กลับมาเรียน ม.6 จนจบก็คิดว่าจะเรียนต่อการตลาด ปวส.
หนูคาดหวังว่าการเรียนต้องเป็นหลักสูตรที่ใช้ได้จริงและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ การเรียนที่ Free From school ดีมากเลย เรียนแล้วมีทั้งทักษะในการเรียน ทักษะการใช้ชีวิต และทักษะด้านอาชีพ การเรียนเราก็เรียนรู้เรื่อง วิชาคณิตศาสตร์เราก็รู้ว่าจะเอาไปใช้ได้อย่างไร ภาษาอังกฤษเราก็พูดสื่อสารได้ อย่างตอนนี้ที่เรียนก็เอาวิชาคณิตศาสตร์กับวิชาภาษาอังกฤษมาประยุกต์ แล้วมีกิจกรรมเสริมเข้าไปด้วย ทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้น ไม่ใช่ให้เรียนแต่ทฤษฎี
หนูคิดว่าการศึกษามีความสำคัญ เพื่อนหนูอีกสามคนไม่ได้เรียนต่อ ต้องไปขายยาเสพติด ติดยาจนต้องอยู่ในสถานพินิจ ฯ ถ้าเพื่อนได้เรียนก็น่าจะมีอนาคตที่ดีและไปไกลกว่านี้
5. นางสาวนวรินทร์ สารี (นุ่น) อายุ 17 ปี
กาญจนบุรี
โรงเรียนนิวิฐราษฎร์อุปถัมภ์ : นวัตกรรม 1 โรงเรียน 3 ระบบ พื้นที่ที่เด็กในระบบ นอกระบบ และอัธยาศัยเรียนร่วมกัน
ถ้าเราได้เรียนตามความถนัดและความชอบ เราจะมีความสุขกับการเรียน
ตอนเรียนมัธยมเเล้วผิดพลาด คิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เรียนแล้ว พอมีครูติดต่อมาก็ดีใจมาก ทำให้ได้กลับไปเเก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง อยากเรียนจบ จะได้มีงานที่ดีทำ
การเรียนตามอัธยาศัยคือเรียนได้ตามที่ตัวเองสนใจ เรียนตามทักษะหรือความสามารถที่ตัวเองถนัด ไม่มีข้อจำกัด เพราะเราสามารถเรียนได้ตลอดเวลา ตอนนี้ที่เรียนอยู่ก็เลยตอบโจทย์ดี สามารถเรียนที่ไหนก็ได้ตามที่เราสะดวก เพราะยุคนี้คนเรามีโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา ทำให้เข้าถึงการศึกษาง่ายขึ้น
หนูเน้นเรียนตามความถนัด ถ้าเราได้เรียนตามความถนัดและความชอบ เราจะมีความสุขกับการเรียน ไม่ต้องอึดอัด เราสามารถทำได้อย่างเต็มที่ อย่างหนูถนัดขายของออนไลน์ โรงเรียนก็สนับสนุน สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการหาเงิน
ความฝันของหนูคืออยากทำงาน หาเงินมาช่วยเรื่องหนี้สิ้นพ่อกับเเม่ นำเงินมาเลี้ยงพ่อกับเเม่ ไม่อยากให้เขาลำบาก อยากให้เขาอยู่สุขสบาย หนูอยากทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน